Support
เกษตรอินทรีย์-นาโน
Tel.
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

ยาฆ่าหญ้า หรือยาฆ่าคน

dr_chal2003@yahoo.com | 09-10-2555 | เปิดดู 2339 | ความคิดเห็น 1

 


อ่านเถอะครับ  แล้วพิจารณาเอาเอง     จะใช้ต่อไป  หรือ  จะหาตัวทดแทน



      ผลการศึกษาวิจัยล่าสุด  ยาฆ่าหญ้า " ไกลโฟเสต " (glyphosate)  ที่ใช้กันมากที่สุดในโลก มีอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์

     กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่นำทีมโดยศาสตราจารย์  ไจลส์-เอริค เซราลีนี (Gilles-Eric Seralini) จากมหาวิทยาลัยกัง (Caen) ในฝรั่งเศส พบว่า ยาฆ่าหญ้า "ไกลโฟเสต" มีปฏิกิริยาต่อเซลล์ในรกมนุษย์  ในระดับความเข้มข้นที่ต่ำกว่าที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน

     การวิจัยของพวกเขายืนยันความเป็นพิษของไกลโฟเสต  หลังการสัมผัสสารในความเข้มข้นต่ำเป็นเวลา 18 ชั่วโมง เซลล์รกของมนุษย์จำนวนมากจะเริ่มตาย  นี่อาจอธิบายได้ว่า  ทำไมเกษตรกรเพศหญิงที่ใช้สารพวกนี้  จึงมัก คลอดลูกก่อนกำหนดหรือแท้งลูก  

     การวิจัยในเกษตรกร  เมืองออนตาริโอ ประเทศแคนาดา  การสัมผัสกับ "สารไกลโฟเสต" ซึ่งเป็นสารประกอบสำคัญ  ทำให้เสี่ยงต่อการแท้งลูกเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า  
    ความเป็นพิษของสูตรยาฆ่าหญ้า  ซึ่งมี "ไกลโฟเสต" เป็นสารประกอบสำคัญ ยังมีสารเคมีอื่นๆผสมลงไปด้วยทำให้ความเป็นพิษของยาฆ่าหญ้ามีมากกว่า "ไกลโฟเสต" เดี่ยวๆเสียอีก 
     งานวิจัยที่เผยแพร่ออกมาในเดือน เมษายน ค.ศ. 2005  จากมหาวิทยาลัยพิทสเบิร์กระบุว่า  "ไกลโฟเสต" เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ        
     "ไกลโฟเสต" ทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำลดลงไปถึง 70%  และทำให้จำนวนลูกอ๊อดลดลงไปถึง 86%    ทำให้กบบางชนิดใกล้สูญพันธุ์แล้ว เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆในธรรมชาติ

    
งานวิจัยอื่นๆ ชี้ว่า "ไกลโฟเสต" กระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัวของเซลล์ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง  และทำให้เกิดอันตรายในตับของหนูทดลองด้วย

     บริษัทผู้ผลิตยาฆ่าหญ้า  มักโฆษณาว่าผลิตภัณฑ์ของตนปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม  ทั้งๆที่ผลการวิจัยชี้ไปในทางตรงกันข้าม  นอกจากนี้  
     บางบริษัทยังเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายพืชเศรษฐกิจดัดแปลงพันธุกรรม ที่ทนทานต่อยาฆ่าหญ้า และทำให้มีการใช้ยาฆ่าหญ้ามากขึ้น  แทนที่จะลดลงตามที่บริษัทเคยอ้างเอาไว้

 

จากหนังสือโลกสีเขียว

     “ดิฉันมีเรื่องอยากจะให้รัฐบาลทราบถึงปัญหาสารพิษในยาฆ่าหญ้า เพราะในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ  ทั่วทั้งจังหวัดสุรินทร์  มีการใช้ยาฆ่าหญ้ากันอย่างแพร่หลาย  เกิดผลกระทบมากมาย เช่น พริกที่ปลูกในสวน ในหมู่บ้าน ในนา โตจนออกดอกติดผล  กลับเหี่ยวเฉาและตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ  หนอนไหมที่โตเต็มที่ก็ตายไปหลายกระด้ง แม้แต่กลิ่นยาฆ่าหญ้าก็ทำให้ลูกชายวัย 5 เดือนของดิฉัน  หายใจไม่ได้จนตัวขึ้นสีม่วง...

     ผลกระทบมีเพิ่มขึ้นทุกครั้งในเวลาทำนา  อากาศก็เสียไม่บริสุทธิ์เหมือนแต่ก่อน น้ำฝนก็มีแต่สารพิษตกค้างเป็นผลเสียต่อทุกคน  ดิฉันอยากทราบว่ากฎหมายทำอะไรได้บ้างกับผู้ที่พ่นยาใกล้บ้านเรือน  ที่อยู่อาศัยกับผู้ที่ได้รับสารพิษโดยไม่ได้มีส่วนพ่นยาเลย  ดิฉันทำเกษตรแบบพอเพียงไม่มีสารเคมี  เดือดร้อนมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น  ดิฉันขอวิงวอน  ขอให้มูลนิธิช่วยจัดการเรื่องเหล่านี้โดยเร่งด่วนด้วย ดิฉันขอความกรุณา" 

     จดหมายนี้ได้รับจากมูลนิธิโลกสีเขียว  มีบทบาทในการเผยแพร่ปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ทางโลกสีเขียวเห็นว่า  เกษตรกรท่านนี้กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก  จึงนำมาชี้ให้เห็นพิษภัยของยาฆ่าหญ้า 
     สารเคมีกำจัดวัชพืชในนาข้าว ไม่ได้จัดเป็นวัตถุอันตรายในความรับผิดชอบของ อย. กรมวิชาการเกษตรควรดำเนินการตรวจสอบ  การใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช  และแจ้งผลให้ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภคทราบ...แต่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น???

 


 

อ้างอิงจากหนังสือโลกสีเขียว..........

เกษตรอินทรีย์_นาโน    

 

ความคิดเห็น

วันที่: Mon May 06 18:28:34 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 1 Pages: 1/1
guest
เกรียงไกร
- Guest -

2014-11-28 16:32:58.0 Post : 2014-11-28 16:32:58.0

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ หากสนใจยาฆ่าหญ้าอินทรีย์"ไกลหญ้า" ตราสัปรด ติดต่อผมได้ครับ
ผมผลิตจากน้ำหมักผลไม้ ผสมน้ำส้มควันไม้เป็นหลัก ไม่มีสารเคมีเจือปน
สัมผัสได้ ถูกตัวได้ แล้วก็สามารถอมพิสูจน์ให้ดูได้ พ่นแล้วหญ้าและวัชพืช
จะตายภายใน 3 วัน แต่จะเหี่ยวให้เห็นภายใน 1 วัน ปลอดสารพิษจริงครับ
ผลิตจากธรรมชาติ 100% อัตราการใช้งาน 200-300 CC ต่อน้ำ 20 ลิตร
รับประกันวัชพืชตายแน่นอน ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลใดๆ ทั้งสิ้นพ่นในน้ำ
จอกแหนผักตบ ตายหมด แต่ปลาไม่ตาย กล้าท้าให้พิสูจน์ได้ครับ
เจ้าเดียวในประเทศไทย ขนาด1ลิตร ราคา 390 บาท ค่าส่ง80 บาท
ช่วยกันอุดหนุนของดีของไทยด้วยนะครับ

Quote

1