Support
เกษตรอินทรีย์-นาโน
Tel.
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

ธาตุอาหาร สำหรับพืช

dr_chal2003@yahoo.com | 23-12-2555 | เปิดดู 987 | ความคิดเห็น 0

 

ปุ๋ย-ธาตุอาหาประกอบด้วย 17 ธาตุ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
 

1. จากสภาพแวดล้อม น้ำและอากาศ  คาร์บอน (C)  ไฮโดรเจน (H)  ออกซิเจน (02)
2. ธาตุอาหารหลัก (Macronutrients)  ได้แก่ ไนโตรเจน (N)  ฟอสฟอรัส (P)  โพแทสเซียม (K)
3. ธาตุอาหารรอง  (Secondary nutrients) ได้แก่ แคลเซียม(Ca)  แมกนีเซียม(Mg)  กำมะถัน(S)
4. จุลธาตุ (Micronutrients or elements) ได้แก่  สังกะสี (Zn) เหล็ก (Fe) แมงกานีส (Mn) โบรอน (B) ทองแดง (Cu)  คลอรีน (Ci)  โมลิบดินั่ม (Mo)  นิคเกิ้ล (Ni)
 
ไนโตรเจน (N)  พืชใช้ในการเจริญเติบโตทั้ง กิ่ง ก้าน ใบ  (Vegetative growth)

 ฟอสฟอรัส (P) เน้นให้พืชในระยะแรก เพื่อเพิ่มการเจริญของระบบราก (plant starter) พืชจะตั้งตัวได้เร็ว ระบบรากที่ดีจะช่วยหาอาหารได้มากขึ้น ในช่วงทำดอกเราใช้ฟอสฟอรัสสูงๆเพื่อกดไนโตรเจน เป็นวิธีปกติที่ใช้กัน ฟอสฟอรัสสูงๆจะมีราคาแพงกว่าตัวอื่นๆ

โพแทสเซียม (K)  
เปรียบเหมือนเป็นพ่อบ้านใหญ่ เพราะเป็นตัวควบคุมระบบต่างๆในต้น

หากเปรียบเช่น เป็นละคร N P K ก็เป็นเหมือนตัวพ่อตัวแม่
ธาตุอาหารรองและจุลธาตุ แคลเซียม (Ca)ตัวพระเอก แมกนีเซียม (Mg)ตัวพระรอง 
โบรอน (B)ตัวนางเอก จุลธาตุที่เหลือก็เป็นผู้ช่วยพระเอกนางเอก ขาดไม่ได้เดี๋ยวละครไม่สนุก

แคลเซียม (Ca) ช่วยเรื่องโครงสร้าง พืชจะแข็งแรงแค่ไหนก็ดูจากตัวนี้ เปรียบเหมือนเราสร้างรั้วล้อมบ้านตรงไหนอ่อนปูนตรงนั้นก็เป็นจุดอ่อน แต่พืชเจริญเติบโตทุกด้านตลอดเวลา การให้จึงเน้นให้น้อยๆแต่บ่อยๆครั้ง โครงสร้างที่แข็งแรงไม่มีจุดอ่อน ก็จะทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมได้ดี ทนร้อนทนแล้ง ทนฝนทนหนาว ดอกไม่ร่วงไม่ฝ่อ อื่นๆอีกมากมาย

แมกนีเซียม (Mg) เป็นแกนกลางของคลอโรฟิลล์ ส่วนที่เป็นสีเขียวเป็นตัวจับพลังงานเพื่อปรุงอาหารเปลี่ยนน้ำและอากาศให้ เป็นแป้งและน้ำตาล แต่การสร้างคลอโรฟิลล์ต้องมีผู้ช่วยพระเอกนางเอกเป็นตัวเร่งขาดไม่ได้(คลอโรฟิลล์ ๑ โมเลกุล มีแมกนีเซียม ๑ อะตอมเป็นแกนกลาง ไนโตรเจน 4 อะตอมและCHO อีกหลายสิบอะตอม แต่การสังเคราะห์ต้องใช้เหล็กเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา)

โบรอน (B) ทำงานคู่กับพระเอก เน้นในเรื่องการติดดอก ออกผล ฝักจะติดดีมีเมล็ดเต็มสมบูรณ์ เมล็ดงอกดีไม่มีฝ่อ คุณภาพหลังเก็บเกี่ยวดี
ผู้ช่วยพระเอกนางเอก กำมะถัน สังกะสี เหล็ก แมงกานีส ทองแดง คลอรีน เน้นในเรื่องสีสันสดใส รสชาติดี มีความสมบูรณ์


เฉพาะโมลิบดีนัมและนิคเกิล ที่พวกเรานิยมใช้ในช่วงหลัง เนื่องจากเราเร่งต้นไม้ด้วย ไนโตรเจนมากๆ 2 ตัวนี้จะไปช่วยให้พืชใช้ไนโตรเจนได้ดีขึ้น(โมลิบดินัม กระตุ้นเอนไซม์ไนเตรตรีดักเตส นิคเกิล กระตุ้นเอนไซม์ยูรีเอส) มีข้อน่าเป็นห่วงที่พืชต้องการน้อยมากๆ แต่ในผลิตภัณฑ์ที่มีวางขายในปัจจุบันทุกคนจะบอกว่ามีและมี%สูงๆ กลัวว่าถ้าใช้ต่อเนื่องจะเกิดเป็นพิษ(phytotoxic) และไม่รู้ว่าเกิดจาก สาเหตุอะไร   ขอให้ระวัง!!!

 

 ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

  • ไนโตรเจน มีหน้าที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีน ช่วยให้พืชมีสีเขียว เร่งการเจริญเติบโตทางใบ หากพืชขาดธาตุนี้จะแสดงอาการใบเหลือง โดยเฉพาะใบล่างๆ จะแห้ง ร่วงหล่นเร็วทำให้ต้นโกร๋น ใบมีขนาดเล็กลง ลำต้นแคระแกร็นและให้ผลผลิตต่ำไนโตรเจน มีหน้าที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีน ช่วยให้พืชมีสีเขียว เร่งการเจริญเติบโตทางใบ

  •       ฟอสฟอรัส มีหน้าที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของราก ควบคุมการออกดอก ออกผล และการสร้างเมล็ด ถ้าพืชขาดธาตุนี้ระบบรากจะไม่เจริญเติบโต ใบแก่จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วงแล้วกลายเป็นสีน้ำตาลและหลุดร่วง ลำต้นแกร็นไม่ผลิดอกออกผล

  •       โพแทสเซียม เป็นธาตุที่ช่วยในการสังเคราะห์น้ำตาล แป้ง และโปรตีน ส่งเสริมการเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากใบไปสู่ผล ช่วยให้ผลเติบโตเร็วและมีคุณภาพดี ช่วยให้พืชแข็งแรง ต้านทานต่อโรคและแมลงบางชนิด ถ้าขาดธาตุนี้พืชจะไม่แข็งแรง ลำต้นอ่อนแอ ผลผลิตไม่เติบโต มีคุณภาพต่ำ สีไม่สวย รสชาติไม่ดี

  •       เมื่อมีการปลูกพืชลงบนดิน ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณของธาตุอาหารต่างๆ ที่มีอยู่ในดิน เนื่องจากในขณะที่พืชมีการเจริญเติบโต พืชจะดูดดึงธาตุอาหารในดินไปใช้และเก็บสะสมไว้ในส่วนต่างๆ ได้แก่ ใบ ลำต้น ดอก ผล จนถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตและนำออกไปจากพื้นที่ ธาตุอาหารที่สะสมอยู่เหล่านั้นย่อมถูกนำออกไปจากพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ธาตุอาหารบางส่วนยังเกิดการสูญหายไปในรูปก๊าซ ถูกดินหรือสารประกอบในดินจับยึดไว้ บางส่วนถูกชะล้างออกไปจากบริเวณรากพืช หรือสูญเสียไปกับการชะล้างพังทลายของดิน

  •       ดังนั้นการเพาะปลูกพืชติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน โดยไม่มีการเติมธาตุอาหารหรืออินทรีย์วัตถุลงไปในดิน ย่อมทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของดินลดลง และในที่สุดดินจะกลายเป็นดินเลวปลูกพืชไม่เจริญเติบโตอีกต่อไป ในการปลูกพืชจึงต้องมีการใส่ปุ๋ยเพื่อบำรุงดิน ช่วยเพิ่มธาตุอาหารพืชและคงระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินไว้อยู่เสมอ
  •  
  •  
  • ธาตุอาหารรอง
  •  

  •       แคลเซียม เป็นองค์ประกอบที่ช่วยในการแบ่งเซลล์ การผสมเกสร การงอกของเมล็ด พืชขาดธาตุนี้ใบที่เจริญใหม่จะหงิกงอ ตายอดไม่เจริญ อาจมีจุดดำที่เส้นใบ รากสั้น ผลแตก และมีคุณภาพไม่ดี

  •       แมกนีเซียม เป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยสังเคราะห์กรดอะมิโน วิตามิน ไขมัน และน้ำตาล ทำให้สภาพกรดด่างในเซลล์พอเหมาะและช่วยในการงอกของเมล็ด ถ้าขาดธาตุนี้ใบแก่จะเหลือง ยกเว้นเส้นใบ และใบจะร่วงหล่นเร็ว

  •       กำมะถัน เป็นองค์ประกอบสำคัญของกรดอะมิโน โปรตีน และวิตามิน ถ้าขาดธาตุนี้ทั้งใบบนและใบล่างจะมีสีเหลืองซีด และต้นอ่อนแอ

  •       โบรอน ช่วยในการออกดอกและการผสมเกสร มีบทบาทสำคัญในการติดผลและการเคลื่อนย้ายน้ำตาลมาสู่ผล การเคลื่อนย้ายของฮอร์โมน การใช้ประโยชน์จากไนโตรเจนและการแบ่งเซลล์ ถ้าพืชขาดธาตุนี้ ตายอดจะตายแล้วเริ่มมีตาข้าง แต่ตาข้างก็จะตายอีก ลำต้นไม่ค่อยยืดตัว กิ่งและใบจึงชิดกัน ใบเล็ก หนา โค้งและเปราะ

  •       ทองแดง ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ การหายใจ การใช้โปรตีนและแป้ง กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์บางชนิด ถ้าพืชขาดธาตุนี้ ตายอดจะชะงักการเจริญเติบโตและกลายเป็นสีดำ ใบอ่อนเหลือง และพืชทั้งต้นจะชะงักการเจริญเติบโต

  •       คลอรีน มีบทบาทบางประการเกี่ยวกับฮอร์โมนในพืช ถ้าขาดธาตุนี้พืชจะเหี่ยวง่าย ใบสีซีด และบางส่วนแห้งตาย

  •       เหล็ก ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ มีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์แสงและหายใจ ถ้าขาดธาตุนี้ใบอ่อนจะมีสีขาวซีดในขณะที่ใบแก่ยังเขียวสด

  •       แมงกานีส ช่วยในการสังเคราะห์แสงและการทำงานของเอนไซม์บางชนิด ถ้าขาดธาตุนี้ใบอ่อนจะมีสีเหลืองในขณะที่เส้นใบยังเขียว ต่อมาใบที่มีอาการดังกล่าวจะเหี่ยวแล้วร่วงหล่น

  •       โมลิบดินัม ช่วยให้พืชใช้ไนโตรเจนให้เป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีน ถ้าขาดธาตุนี้พืชจะมีอาการคล้ายขาดไนโตรเจน ใบมีลักษณะโค้งคล้ายถ้วย ปรากฏจุดเหลืองๆ ตามแผ่นใบ

  •       สังกะสี ช่วยในการสังเคราะห์ฮอร์โมนออกซิน คลอโรฟิลล์ และแป้ง ถ้าขาดธาตุนี้ใบอ่อนจะมีสีเหลืองซีดและปรากฏสีขาวๆ ประปรายตามแผ่นใบ โดยเส้นใบยังเขียว รากสั้นไม่เจริญตามปกติ

 

ความคิดเห็น

วันที่: Mon May 06 23:17:23 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0